วันนี้ แชร์ความรู้ กันซักนิดนะครับ… 😊
พอดี เห็นจาก ในกลุ่ม แชร์ เพื่อประโยชน์ แก่คนเลี้ยงสุนัขครับ
เคสนี้ น้องมีภาวะหลอดลมตีบ เวลาเราเจอสุนัขที่เป็นหลอดลมตีบ ในบางครั้ง คุณหมอ ก็จะ focus การให้ยาทานขยายหลอดลม พ่นยา อันนี้ ถูกต้องครับ แต่แก้ที่ปลายเหตุ หมายถึง ช่วยได้ครับ แต่ไม่ยั่งยืน แท้จริงแล้ว หลอดลมสุนัขจะเป็น เหมือนท่อยาง ยืดหยุ่นได้ ตีบได้ ขยายได้ นั่นเอง ผมแบ่ง ภาวะ หลอดลมตีบ เป็น 2 แบบ ดังนี้ครับ
1. ในลูกสุนัข
เกิดได้ง่าย เนื่องจาก อายุยังน้อย มีความ sensitive เพราะร่างกายยังบาง ไม่มีกล้ามเนื้อ หรือชั้นไขมัน มักเจอ เมื่อสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง นอนแอร์ ฝนตก ชื้น นอนพื้นปูน พื้นกระเบื้อง อกสัมผัสพื้นเหล่านี้โดยตรง
การรักษา ทานยา + พ่นยา หลีกเลี่ยงการนอนแอร์ในช่วงกลางคืน
วัย 2-7 เดือน เป็นแล้ว หาย และสามารถกลับมาเป็นได้อีก รวมอีก อาการไอแครกๆ ด้วย เป็นอีก ก็รักษาอีก แต่หลัง 7 เดือน จะดีขึ้น ชัดเจน และแทบจะไม่ sensitive แบบวัยเด็กๆ เพราะเริ่มโต เริ่มมีภูมิ
2. ในสุนัขโต มักเจอในสุนัขที่อายุ 4 ปีขึ้นไป ที่อ้วน หนังหนา
เช็คอย่างไรว่าสุนัขอ้วน ไม่ต้องชั่งคับ โยนตาชั่งทิ้งได้เลย😂 เอามือเราไปจับช่วงสะโพก ถ้ามือยังเป็นวงรีอยู่ จับแล้วโดนซี่โครง ถือว่าโอเค แต่ถ้าจับแล้วหนังหนาไม่เจอกระดูก มือเราอ้ากว้างออก ลดน้ำหนักเถอะครับ
การรักษา
ระยะแรก ทานยา + พ่นยา อย่าพึ่งลดน้ำหนักโดยการออกกำลังกายที่มากเกินไป เดินได้ ในเวลาที่อากาศไม่ร้อน เดินเบาๆ
รักษาที่เห็นผลถาวร คือ ลดน้ำหนักครับ
งดขนม อาหารคน งดปริมาณอาหาร น้องบางคน ต้องงดเหลือ 1 มื้อ ในระยะแรก แต่ถ้างด 1 มื้อ น้องมีอาการ อ้วกน้ำย่อย แสดงว่า ต้องใช้การลดน้ำหนัก โดย ลดปริมาณอาหาร แต่ให้ 2 มื้อเช่น เคย
บางท่านอาจจะสงสัย อ้าว อ้วนเกี่ยวอะไร กับหลอดลมตีบ
มองภาพง่ายๆ ครับ อ้วน มันเลยไปเบียดหลอดลม เพราะหลอดลม คือกระดูกอ่อน
คนอ้วนหายใจลำบากฉันใด
น้องหมาอ้วน ก็หายใจลำบาก (หลอดลมตีบ) ฉันนั้น 😊🙏